17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์

17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?   เช็กอาการคนท้องในระยะเริ่มแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ ส่วนใหญ่จะมีอาการอย่างไร และหากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?  อาการคนท้อง นอกจากอาการคลื่นไส้อาเจียน ในระยะ 1-2 สัปดาห์ แต่ละคนอาจจะมีอาการไม่เหมือนกัน บางคนมีอาการแพ้ท้องมาก หรือ บางคนอาจจะไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็มี แต่ก็อาจจะมีบางคนที่มีอาการแปลกๆ ซึ่งอาจจะไม่แน่ใจว่า กำลังท้องหรือไม่ ดังนั้นอาการที่บอกว่าตั้งครรภ์ในระยะ 1-2 สัปดาห์แต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แต่ในทางการแพทย์ก็มีลักษณะบางอย่างที่ร่างกายแสดงออกมา ที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็น อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ จะมีอาการอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เราจึงรวบรวม อาการคนท้อง มาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ     17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?   ประจำเดือนขาด โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาในระยะ 21-35 วัน และจะมาในเวลาใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากว่า มีอาการประจำเดือนขาด สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติถ้าประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติขาดหายไป รอแล้วรอเล่าไม่มาสักที แสดงว่าคุณอาจจะกำลังมีการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนจะขาดหายไป แนะนำให้ไปซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ   ประจำเดือนขาด  โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาในระยะ 21-35 วัน และจะมาในเวลาใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากว่า มีอาการประจำเดือนขาด สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติถ้าประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติขาดหายไป รอแล้วรอเล่าไม่มาสักที แสดงว่าคุณอาจจะกำลังมีการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนจะขาดหายไป แนะนำให้ไปซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น  เนื่องจากฮอร์โมนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ จึงทำให้มีการหลั่งของพวกสารต่างๆ รวมทั้งมีตกขาวในช่องคลอดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นช่วงที่มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี จะต้องล้างและซับให้แห้งสนิททุกครั้ง แต่ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นแต่อย่างใด เพราะอาจไปฆ่าเชื้อดีๆ ที่ช่วยป้องกันเชื้อร้ายออกไปได้ และที่สำคัญห้ามสวนล้างช่องคลอดเด็ดขาด  เหนื่อยง่ายหายใจถี่ เนื่องจากตัวอ่อนที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องของคุณแม่นั้นมีความต้องการออกซิเจนจากคุณแม่ จึงทำให้คุณแม่หายใจถี่และรู้สึกเหนื่อยได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งมีแรงกดดันต่อปอดและกระบังลมของคุณแม่ไปด้วย มีอาการเริ่มคัดเต้านม  อาการคัดเต้านมจะมีความคล้ายกับตอนมีประจำเดือน และสามารถสังเกตเห็นได้ว่าเต้านมจะมีขนาดใหญ่ รู้สึกหนัก รอบหัวนมจะมีสีคล้ำกว่าเดิม และบริเวณผิวหนังของเต้านมจะบางลงจนมองเห็นหลอดเลือดดำได้อย่างเด่นชัดมาก รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย  การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกจะทำให้คุณแม่รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย พร้อมทั้งมีอาการอ่อนล้าและหมดแรง แต่อาการคนท้องลักษณะนี้จะดีขึ้นเมื่ออายุตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน  โดยปกติเมื่ออายุครรภ์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 คุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งอาการนี้จะดีขึ้นเมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง แต่ในบางรายจะพบกับอาการคนท้องดังกล่าวตั้งแต่รอบเดือนหายไป ปัสสาวะบ่อย  เนื่องจากร่างกายที่อยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์จะมีการสร้างของเหลวมากขึ้นกว่าเดิม และเลือดเกิดการไหลเวียนมากขึ้น นั่นจึงส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย อาจจะปวดหัวได้เป็นบางเวลา  อาการปวดหัวถือเป็นหนึ่งในอาการคนท้องที่ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ ซึ่งฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของการใช้ยาคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เริ่มมีอาการปวดหลัง  อาการปวดหลังคืออาการคนท้องที่เกิดขึ้นได้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งศูนย์กลางของการทรงตัวของคุณแม่เปลี่ยนไปจากเดิม ส่งผลให้การยืน นั่ง หรือเดินเปลี่ยนแปลงไปด้วย ปวดเกร็งในช่องท้อง  ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะมีอาการปวดเกร็งในช่องท้องคล้ายกับตอนปวดประจำเดือน และหากมีอาการปวดหน่วงๆ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการขยายตัวของมดลูก  เริ่มต้นช่วงแรกจะมีอาการอยากกินอาหารรสเปรี้ยว  ความอยากอาหารของคุณแม่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ โดยส่วนใหญ่จะต้องการอาหารรสเปรี้ยว และมักจะมีอาการคลื่นไส้เมื่อได้กลิ่นปลา มีอาการท้องผูก  ฮอร์โมน progesterone จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้อาหารย่อยได้ช้าและมีแก๊สอยู่ในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย อารมณ์เสียง่าย หงุดหงิดได้ง่าย  คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงและมักจะอารมณ์เสียง่าย เนื่องจากระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งร่างกายพยายามปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ อุณหภูมิในร่างกายสูง  ร่างกายของคุณแม่จะมีอุณหภูมิสูง และรู้สึกร้อนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงและใช้พลังงานมากขึ้นนั่นเอง มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม การตั้งครรภ์จะส่งผลให้คุณแม่มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่ากลิ่นนั้นจะมีกลิ่นหอมหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็ตาม เกิดอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย  น้ำตาลในเลือดหรือความดันโลหิตจะลดลงในช่วงตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้คุณแม่มีอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย แนะนำให้คุณแม่หมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ดี อาจจะมีเลือดออกกะปริดกะปรอย  ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีเลือดออกกะปริดกะปรอยโดยที่ไม่มีอาการปวดเกร็งท้องเลย คุณแม่ควรสังเกตอาการให้ดี หากมีเลือดออกไม่หยุดควรรีบพบแพทย์ทันที   อาการคนท้อง ทั้ง 17 อาการที่เราได้นำมาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบนั้น อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ในแต่ละคนด้วยอาการที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสังเกตแต่ละอาการให้ดี รวมทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สุขภาพร่างกายในขณะตั้งครรภ์แข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นเรามีอาหารแนะนำสำหรับคุณแม่ ที่เริ่มตั้งครรภ์ ที่ควรทานมีอะไรบ้าง  อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทาน  อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก   อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จะช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือดให้กับคุณแม่ ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งผ่านรกเข้าไปสู่ทารกน้อยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกน้อยด้วย อาหารประเภทโปรตีน   เนื่องจากอายุครรภ์ 2 เดือน ทารกน้อยจะเริ่มมีการสร้างอวัยวะต่างๆ ซึ่งโปรตีนจัดเป็นอาหารที่ช่วยในการสร้างอวัยวะต่างๆ ของทารกในครรภ์ได้ดีมากๆ อาหารจำพวกแคลเซียม   แคลเซียมคือสารอาหารที่มีความโดดเด่นในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อของทารกในครรภ์อีกด้วย อาหารที่ให้วิตามินบี2   อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกน้อยในครรภ์ ซึ่งถือเป็นสารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับตลอดการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ อาหารที่มีกรดโฟลิก   อาหารที่มีกรดโฟลิกจะช่วยให้เซลล์แต่ละตัวของตัวอ่อนมีความแข็งแรง ซึ่งหากคุณแม่ไม่ได้รับสารอาหารชนิดนี้ อาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทของลูกน้อย และยังเสี่ยงเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดด้วย  ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com  ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : mydeedees.com17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?

เช็กอาการคนท้องในระยะเริ่มแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ ส่วนใหญ่จะมีอาการอย่างไร และหากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?

อาการคนท้อง นอกจากอาการคลื่นไส้อาเจียน ในระยะ 1-2 สัปดาห์ แต่ละคนอาจจะมีอาการไม่เหมือนกัน บางคนมีอาการแพ้ท้องมาก หรือ บางคนอาจจะไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็มี แต่ก็อาจจะมีบางคนที่มีอาการแปลกๆ ซึ่งอาจจะไม่แน่ใจว่า กำลังท้องหรือไม่ ดังนั้นอาการที่บอกว่าตั้งครรภ์ในระยะ 1-2 สัปดาห์แต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แต่ในทางการแพทย์ก็มีลักษณะบางอย่างที่ร่างกายแสดงออกมา ที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็น อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ จะมีอาการอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เราจึงรวบรวม อาการคนท้อง มาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ

 

17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?

ประจำเดือนขาด
โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาในระยะ 21-35 วัน และจะมาในเวลาใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากว่า มีอาการประจำเดือนขาด สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติถ้าประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติขาดหายไป รอแล้วรอเล่าไม่มาสักที แสดงว่าคุณอาจจะกำลังมีการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนจะขาดหายไป แนะนำให้ไปซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ

  1. ประจำเดือนขาด

    โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาในระยะ 21-35 วัน และจะมาในเวลาใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากว่า มีอาการประจำเดือนขาด สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติถ้าประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติขาดหายไป รอแล้วรอเล่าไม่มาสักที แสดงว่าคุณอาจจะกำลังมีการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนจะขาดหายไป แนะนำให้ไปซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ

  2. มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น

    เนื่องจากฮอร์โมนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ จึงทำให้มีการหลั่งของพวกสารต่างๆ รวมทั้งมีตกขาวในช่องคลอดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นช่วงที่มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี จะต้องล้างและซับให้แห้งสนิททุกครั้ง แต่ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นแต่อย่างใด เพราะอาจไปฆ่าเชื้อดีๆ ที่ช่วยป้องกันเชื้อร้ายออกไปได้ และที่สำคัญห้ามสวนล้างช่องคลอดเด็ดขาด

  3. เหนื่อยง่ายหายใจถี่

    เนื่องจากตัวอ่อนที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องของคุณแม่นั้นมีความต้องการออกซิเจนจากคุณแม่ จึงทำให้คุณแม่หายใจถี่และรู้สึกเหนื่อยได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งมีแรงกดดันต่อปอดและกระบังลมของคุณแม่ไปด้วย

  4. มีอาการเริ่มคัดเต้านม

    อาการคัดเต้านมจะมีความคล้ายกับตอนมีประจำเดือน และสามารถสังเกตเห็นได้ว่าเต้านมจะมีขนาดใหญ่ รู้สึกหนัก รอบหัวนมจะมีสีคล้ำกว่าเดิม และบริเวณผิวหนังของเต้านมจะบางลงจนมองเห็นหลอดเลือดดำได้อย่างเด่นชัดมาก

  5. รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย

    การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกจะทำให้คุณแม่รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย พร้อมทั้งมีอาการอ่อนล้าและหมดแรง แต่อาการคนท้องลักษณะนี้จะดีขึ้นเมื่ออายุตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง

  6. เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

    โดยปกติเมื่ออายุครรภ์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 คุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งอาการนี้จะดีขึ้นเมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง แต่ในบางรายจะพบกับอาการคนท้องดังกล่าวตั้งแต่รอบเดือนหายไป

  7. ปัสสาวะบ่อย

    เนื่องจากร่างกายที่อยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์จะมีการสร้างของเหลวมากขึ้นกว่าเดิม และเลือดเกิดการไหลเวียนมากขึ้น นั่นจึงส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย

  8. อาจจะปวดหัวได้เป็นบางเวลา

    อาการปวดหัวถือเป็นหนึ่งในอาการคนท้องที่ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ ซึ่งฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของการใช้ยาคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

  9. เริ่มมีอาการปวดหลัง

    อาการปวดหลังคืออาการคนท้องที่เกิดขึ้นได้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งศูนย์กลางของการทรงตัวของคุณแม่เปลี่ยนไปจากเดิม ส่งผลให้การยืน นั่ง หรือเดินเปลี่ยนแปลงไปด้วย

  10. ปวดเกร็งในช่องท้อง

    ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะมีอาการปวดเกร็งในช่องท้องคล้ายกับตอนปวดประจำเดือน และหากมีอาการปวดหน่วงๆ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการขยายตัวของมดลูก

    17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?   เช็กอาการคนท้องในระยะเริ่มแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ ส่วนใหญ่จะมีอาการอย่างไร และหากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?  อาการคนท้อง นอกจากอาการคลื่นไส้อาเจียน ในระยะ 1-2 สัปดาห์ แต่ละคนอาจจะมีอาการไม่เหมือนกัน บางคนมีอาการแพ้ท้องมาก หรือ บางคนอาจจะไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็มี แต่ก็อาจจะมีบางคนที่มีอาการแปลกๆ ซึ่งอาจจะไม่แน่ใจว่า กำลังท้องหรือไม่ ดังนั้นอาการที่บอกว่าตั้งครรภ์ในระยะ 1-2 สัปดาห์แต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน แต่ในทางการแพทย์ก็มีลักษณะบางอย่างที่ร่างกายแสดงออกมา ที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็น อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หรือ ท้องเดือนแรกๆ จะมีอาการอย่างไรบ้างนั้น วันนี้เราจึงรวบรวม อาการคนท้อง มาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ     17 อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ท้องรึยัง?   ประจำเดือนขาด โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาในระยะ 21-35 วัน และจะมาในเวลาใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากว่า มีอาการประจำเดือนขาด สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติถ้าประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติขาดหายไป รอแล้วรอเล่าไม่มาสักที แสดงว่าคุณอาจจะกำลังมีการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนจะขาดหายไป แนะนำให้ไปซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ   ประจำเดือนขาด  โดยปกติผู้หญิงจะมีประจำเดือนมาในระยะ 21-35 วัน และจะมาในเวลาใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากว่า มีอาการประจำเดือนขาด สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติถ้าประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติขาดหายไป รอแล้วรอเล่าไม่มาสักที แสดงว่าคุณอาจจะกำลังมีการตั้งครรภ์ เพราะหลังจากการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนจะขาดหายไป แนะนำให้ไปซื้อเครื่องตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น  เนื่องจากฮอร์โมนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ จึงทำให้มีการหลั่งของพวกสารต่างๆ รวมทั้งมีตกขาวในช่องคลอดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นช่วงที่มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี จะต้องล้างและซับให้แห้งสนิททุกครั้ง แต่ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นแต่อย่างใด เพราะอาจไปฆ่าเชื้อดีๆ ที่ช่วยป้องกันเชื้อร้ายออกไปได้ และที่สำคัญห้ามสวนล้างช่องคลอดเด็ดขาด  เหนื่อยง่ายหายใจถี่ เนื่องจากตัวอ่อนที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องของคุณแม่นั้นมีความต้องการออกซิเจนจากคุณแม่ จึงทำให้คุณแม่หายใจถี่และรู้สึกเหนื่อยได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งมีแรงกดดันต่อปอดและกระบังลมของคุณแม่ไปด้วย มีอาการเริ่มคัดเต้านม  อาการคัดเต้านมจะมีความคล้ายกับตอนมีประจำเดือน และสามารถสังเกตเห็นได้ว่าเต้านมจะมีขนาดใหญ่ รู้สึกหนัก รอบหัวนมจะมีสีคล้ำกว่าเดิม และบริเวณผิวหนังของเต้านมจะบางลงจนมองเห็นหลอดเลือดดำได้อย่างเด่นชัดมาก รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย  การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกจะทำให้คุณแม่รู้สึกเมื่อยล้าได้ง่าย พร้อมทั้งมีอาการอ่อนล้าและหมดแรง แต่อาการคนท้องลักษณะนี้จะดีขึ้นเมื่ออายุตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน  โดยปกติเมื่ออายุครรภ์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 คุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งอาการนี้จะดีขึ้นเมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สอง แต่ในบางรายจะพบกับอาการคนท้องดังกล่าวตั้งแต่รอบเดือนหายไป ปัสสาวะบ่อย  เนื่องจากร่างกายที่อยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์จะมีการสร้างของเหลวมากขึ้นกว่าเดิม และเลือดเกิดการไหลเวียนมากขึ้น นั่นจึงส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย อาจจะปวดหัวได้เป็นบางเวลา  อาการปวดหัวถือเป็นหนึ่งในอาการคนท้องที่ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ ซึ่งฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของการใช้ยาคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เริ่มมีอาการปวดหลัง  อาการปวดหลังคืออาการคนท้องที่เกิดขึ้นได้ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งศูนย์กลางของการทรงตัวของคุณแม่เปลี่ยนไปจากเดิม ส่งผลให้การยืน นั่ง หรือเดินเปลี่ยนแปลงไปด้วย ปวดเกร็งในช่องท้อง  ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะมีอาการปวดเกร็งในช่องท้องคล้ายกับตอนปวดประจำเดือน และหากมีอาการปวดหน่วงๆ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการขยายตัวของมดลูก  เริ่มต้นช่วงแรกจะมีอาการอยากกินอาหารรสเปรี้ยว  ความอยากอาหารของคุณแม่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ โดยส่วนใหญ่จะต้องการอาหารรสเปรี้ยว และมักจะมีอาการคลื่นไส้เมื่อได้กลิ่นปลา มีอาการท้องผูก  ฮอร์โมน progesterone จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้อาหารย่อยได้ช้าและมีแก๊สอยู่ในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย อารมณ์เสียง่าย หงุดหงิดได้ง่าย  คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงและมักจะอารมณ์เสียง่าย เนื่องจากระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งร่างกายพยายามปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ อุณหภูมิในร่างกายสูง  ร่างกายของคุณแม่จะมีอุณหภูมิสูง และรู้สึกร้อนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงและใช้พลังงานมากขึ้นนั่นเอง มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม การตั้งครรภ์จะส่งผลให้คุณแม่มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่ากลิ่นนั้นจะมีกลิ่นหอมหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็ตาม เกิดอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย  น้ำตาลในเลือดหรือความดันโลหิตจะลดลงในช่วงตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้คุณแม่มีอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย แนะนำให้คุณแม่หมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ดี อาจจะมีเลือดออกกะปริดกะปรอย  ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีเลือดออกกะปริดกะปรอยโดยที่ไม่มีอาการปวดเกร็งท้องเลย คุณแม่ควรสังเกตอาการให้ดี หากมีเลือดออกไม่หยุดควรรีบพบแพทย์ทันที   อาการคนท้อง ทั้ง 17 อาการที่เราได้นำมาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบนั้น อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ในแต่ละคนด้วยอาการที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสังเกตแต่ละอาการให้ดี รวมทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สุขภาพร่างกายในขณะตั้งครรภ์แข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นเรามีอาหารแนะนำสำหรับคุณแม่ ที่เริ่มตั้งครรภ์ ที่ควรทานมีอะไรบ้าง  อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทาน  อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก   อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จะช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือดให้กับคุณแม่ ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งผ่านรกเข้าไปสู่ทารกน้อยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกน้อยด้วย อาหารประเภทโปรตีน   เนื่องจากอายุครรภ์ 2 เดือน ทารกน้อยจะเริ่มมีการสร้างอวัยวะต่างๆ ซึ่งโปรตีนจัดเป็นอาหารที่ช่วยในการสร้างอวัยวะต่างๆ ของทารกในครรภ์ได้ดีมากๆ อาหารจำพวกแคลเซียม   แคลเซียมคือสารอาหารที่มีความโดดเด่นในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อของทารกในครรภ์อีกด้วย อาหารที่ให้วิตามินบี2   อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกน้อยในครรภ์ ซึ่งถือเป็นสารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับตลอดการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ อาหารที่มีกรดโฟลิก   อาหารที่มีกรดโฟลิกจะช่วยให้เซลล์แต่ละตัวของตัวอ่อนมีความแข็งแรง ซึ่งหากคุณแม่ไม่ได้รับสารอาหารชนิดนี้ อาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทของลูกน้อย และยังเสี่ยงเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดด้วย  ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com  ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : mydeedees.com
    ขอบคุณรุปภาพจาก : sanook.com

     

  11. เริ่มต้นช่วงแรกจะมีอาการอยากกินอาหารรสเปรี้ยว

    ความอยากอาหารของคุณแม่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ โดยส่วนใหญ่จะต้องการอาหารรสเปรี้ยว และมักจะมีอาการคลื่นไส้เมื่อได้กลิ่นปลา

  12. มีอาการท้องผูก

    ฮอร์โมน progesterone จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้อาหารย่อยได้ช้าและมีแก๊สอยู่ในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย

  13. อารมณ์เสียง่าย หงุดหงิดได้ง่าย

    คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงและมักจะอารมณ์เสียง่าย เนื่องจากระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งร่างกายพยายามปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่

  14. อุณหภูมิในร่างกายสูง

    ร่างกายของคุณแม่จะมีอุณหภูมิสูง และรู้สึกร้อนได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงและใช้พลังงานมากขึ้นนั่นเอง

  15. มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

    การตั้งครรภ์จะส่งผลให้คุณแม่มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่ากลิ่นนั้นจะมีกลิ่นหอมหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็ตาม

  16. เกิดอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย

    น้ำตาลในเลือดหรือความดันโลหิตจะลดลงในช่วงตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้คุณแม่มีอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะได้ง่าย แนะนำให้คุณแม่หมั่นดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ดี

  17. อาจจะมีเลือดออกกะปริดกะปรอย

    ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีเลือดออกกะปริดกะปรอยโดยที่ไม่มีอาการปวดเกร็งท้องเลย คุณแม่ควรสังเกตอาการให้ดี หากมีเลือดออกไม่หยุดควรรีบพบแพทย์ทันที

อาการคนท้อง ทั้ง 17 อาการที่เราได้นำมาแบ่งปันให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบนั้น อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ในแต่ละคนด้วยอาการที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสังเกตแต่ละอาการให้ดี รวมทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สุขภาพร่างกายในขณะตั้งครรภ์แข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นเรามีอาหารแนะนำสำหรับคุณแม่ ที่เริ่มตั้งครรภ์ ที่ควรทานมีอะไรบ้าง

อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรทาน

  1. อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก

    อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จะช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือดให้กับคุณแม่ ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งผ่านรกเข้าไปสู่ทารกน้อยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกน้อยด้วย

  2. อาหารประเภทโปรตีน

    เนื่องจากอายุครรภ์ 2 เดือน ทารกน้อยจะเริ่มมีการสร้างอวัยวะต่างๆ ซึ่งโปรตีนจัดเป็นอาหารที่ช่วยในการสร้างอวัยวะต่างๆ ของทารกในครรภ์ได้ดีมากๆ

  3. อาหารจำพวกแคลเซียม

    แคลเซียมคือสารอาหารที่มีความโดดเด่นในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อของทารกในครรภ์อีกด้วย

  4. อาหารที่ให้วิตามินบี2

    อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกน้อยในครรภ์ ซึ่งถือเป็นสารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับตลอดการตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้

  5. อาหารที่มีกรดโฟลิก

    อาหารที่มีกรดโฟลิกจะช่วยให้เซลล์แต่ละตัวของตัวอ่อนมีความแข็งแรง ซึ่งหากคุณแม่ไม่ได้รับสารอาหารชนิดนี้ อาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทของลูกน้อย และยังเสี่ยงเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดด้วย

ขอบคุณแหล่งที่มา : sanook.com


ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : mydeedees.com

ตำแหน่งสิวบอกอะไร พาไปไขข้อข้องใจกับปัญหาสิว

ตำแหน่งสิวบอกอะไร พาไปไขข้อข้องใจกับปัญหาสิวขึ้นซ้ำซาก […]

Read More

แก้อาการปวดหัวไมเกรนในช่วงมีประจำเดือน

แก้อาการปวดหัวไมเกรนในช่วงมีประจำเดือนด้วย 5 วิธีที่ทำต […]

Read More

5 เคล็ดลับช่วยปรับรูปร่างให้สวยสมส่วน

5 เคล็ดลับช่วยปรับรูปร่างให้สวยสมส่วน ใส่ชุดไหนก็เป๊ะ ป […]

Read More