ฮอร์นฟรอก (Horned frog) กบน้อยน่ารัก จอมตะกละ
ถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงสุดแปลกยอดฮิตอีกหนึ่งตัว คงจะหนีไม่พ้นเจ้ากบน้อย ฮอร์นฟรอก (Horned frog) หรือกบมีเขา ที่ปัจจุบันเป็นสัตว์เลี้ยงสุดแปลกที่ค่อนข้างได้รับความนิยมพอสมควร เนื่องจากมีลักษณะลวดลาย สีสันสวยงามสะดุดตา ตัวป้องกลมน่ารัก แถมยังเลี้ยงง่ายและมีอายุยืนยาวมากๆเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ โดยน้องมีหลายชื่อให้เรียกด้วยกันไม่ว่าจะเป็น ฮอร์นฟรอก (horned frog), แพ็คแมน ฟรอก (Pacman frog) หรือ ออเนท ฮอร์นฟรอก (Ornate horned frog)
ถิ่นกำเนิด น้องเป็นกบที่อยู่ในตระกลู Ceratophryidae เป็นสายพันธุ์ที่สามารถพบได้ในแถบอเมริกาใต้ พบได้มากในป่าฝนเขตร้อน บนเทือกเขาทุ่งหญ้าของประเทศอาร์เจนติน่า อุรุกวัยและบราซิล
ลักษณะทางกายภาพ
ภายนอกน้องจะมีสีสันสวยงาม มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีหลักๆที่เห็นได้บ่อยจะเป็นสีเขียว มีลวดลายบนลำตัวคล้ายจุดสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงดำ และยังมีสีเหลือง ส้ม แดงสตอเบอร์รี่ และน้ำตาลช็อคโกแลต ซึ่งสีต่างๆนี้มีประโยชน์ในการช่วยอำพรางและซ่อนตัวของน้อง โดยเวลาอยู่ในธรรมชาติ น้องมักจะซุกตัวลงไปในดินหรือซุกไปตามใบไม้สีเขียวหรือสีน้ำตาล ซุกไปประมาณครึ่งตัวและโผล่หัวไว้ จากนั้นเมื่อไหร่ที่เหยื่อเดินผ่านมา น้องจะใช้ปากกว้างๆคว้าเหยื่อเข้ามากิน และกลืนเข้าไปทั้งตัว ลักษณะผิวกายที่ค่อนข้างตะปุ่มตะป่ำคล้ายคางคก และช่วงตัวอ้วนกลมคล้ายอึ่งอ่างไทย มีหนามขึ้นบริเวณบนตาคล้ายเขาทั้งสองข้าง มีลักษณะปากที่กว้างเท่าขนาดลำตัว ขากรรไกรแข็งแรง หลังจากฟักออกจากไข่เพียง 2 อาทิตย์ น้องจะมีพัฒนาการเจริญเติบโตที่รวดเร็วมาก เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากกบเด็กเป็นกบผู้ใหญ่เลยก็ว่าได้ ทั้งสีสัน ลวดลาย และขนาดตัว จะโตเต็มวัยเมื่ออายุ 5 เดือน ตัวผู้จะมีขนาดตัว 10 เซนติเมตร และตัวเมียมีขนาดถึง 15 เซนติเมตร ซึ่งเราจะสามารถแยกเพศน้องได้ต่อเมื่อน้องมีอายุตั้งแต่ 3-4 เดือน หรือเมื่อมีขนาดตัว 5-8 เซนติเมตร
โดยเราสามารถแยกเพศน้องได้ง่ายๆ ดังนี้
ตัวผู้ : มักจะมีปานที่ปลายนิ้วโป้ง และมีขนาดคางที่หย่อนและย้อย เพราะต้องใช้คางในการร้องเรียกหาตัวเมีย หรือถ้าตัวไหนที่ส่งเสียงร้องแล้วให้ จำแนกว่าเป็นตัวผู้ได้เลยค่ะ สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเยนต์
ตัวเมีย : จะมีลักษณะตัวที่ใหญ่และอ้วนกว่าตัวผู้อย่างเห็นได้ชัด และไม่มีปาน ที่นิ้ว คางจะไม่หย่อนและย้อย แต่เมื่ออายุเยอะขึ้นก็อาจจะมีหย่อนคล้อยบ้างตามอายุ
การผสมพันธุ์ นั้นลักษณะจะคล้ายกับกบนา คือนำใส่ตู้เดียวกันแค่สองตัวเท่านั้น คู่ใครคู่มัน เพื่อลดการต่อสู้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ น้องมีอายุขัยสูงถึง 6-10 ปี ยิ่งถ้าตัวไหนแข็งแรงและได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี น้องอาจจะมีอายุถึง 15 ปีได้เลย
ลักษณะนิสัย
น้องจะมีนิสัยสันโดษ ชอบอยู่ตามลำพัง และนิ่งมาก ชอบซุ่มหาอาหารแบบเงียบๆ ไม่ดุร้าย ไม่ค่อยแสดงกิจกรรมอะไรให้เจ้าของดูนัก ไม่ชอบกระโดด และว่ายน้ำไม่เก่ง เนื่องจากขาหน้าและขาหลังค่อนข้างสั้น จึงมักใช้วิธีคลานหรือปีนป่ายเอา กิจกรรมในแต่ละวันส่วนใหญ่คือชอบซุกตัวอยู่ในดิน และมีนิสัยที่ตะกละ เรียกได้ว่า กินทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อไหร่ที่ท้องอิ่มแล้ว น้องจะสามารถอยู่นิ่งๆได้ถึง 2-3 วัน
อาหาร
น้องเป็นสัตว์กินเนื้อ (Carnivorous)
หากินกลางวัน ไม่ค่อยออกล่า ส่วนมากจะรอให้เหยื่อมาเอง ซุ่มตัวรองับอยู่เงียบๆ เนื่องจากมีลักษณะปากกว้างและขากรรไกรแข็งแรง อาหารของน้องจึงมีขนาดตั้งแต่ใหญ่ไปจนถึงเล็ก เช่น จิ้งหรีด หนอนนก จิ้งจก แมลงสาบ ไส้เดือน ลูกหนู ลูกน้ำ แพลงก์ตอน ปลาตัวเล็ก รวมไปถึงสัตว์มีกระดูกสันหลัง และอาหารสำเร็จรูป ฮอร์นฟรอกจะไม่กินน้ำ แต่จะดูดซึมน้ำจากทางผิวหนังแทน เพราะฉะนั้นพื้นที่ภายในตู้หรือกล่องควรจะมีความชื้นอยู่เสมอเพื่อให้น้องสามารถดูดซึมน้ำได้
อุปกรณ์และวิธีการเลี้ยง
ภาชนะในการเลี้ยง
เช่น ตู้ปลา ตู้พลาสติก หรือกล่อง ตอนยังตัวเล็กสามารถใช้แค่ขนาดประมาณ 12 นิ้วได้ แต่เมื่อโตเต็มวัยให้เปลี่ยนภาชนะเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้น 20-24 นิ้ว จะทำให้น้องมีพื้นที่ในการปีนป่ายและซุกตัวได้มากยิ่งขึ้น และควรทำให้ในตู้มีทั้งบกและน้ำ อุณภูมิในการเลี้ยงควรอยู่ระหว่าง 27-29 องศาเซลเซียส
วัสดุรองพื้น
สามารถใช้ได้หลายอย่างแล้วแต่คนถนัด เช่น ขุยมะพร้าว หญ้ามอส ฟองน้ำ เพื่อกักเก็บความชื้น โดยจะแนะนำเป็นพวกขุยมะพร้าวแบบละเอียด เนื่องจากเจ้ากบของเรานั่นมักจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า และขุยมะพร้าวเป็นสิ่งที่กินเข้าไปแล้วจะเกิดการแตกตัวกระจายในท้อง ต่างจากวัสดุอื่นๆ ที่มักจะจับตัวเป็นก้อน ทำให้ย่อยยาก ซึ่งอาจทำให้น้องเกิดการอุดตันในท้องได้
ถ้ำ เนื่องจากน้องมักชอบซุกในดินและชอบซ่อนตัว ควรมีถ้ำหรือวัสดุที่สามารถทำให้น้องซ่อนตัวได้ด้วย
ถาดอาหาร ควรมีถาดใส่อาหารที่น้องกบสามารถปีนเข้าปีนออกได้อย่างสะดวก

สถานที่และวิธีการเลือกซื้อ
ปัจจุบันสามารถหาซื้อกบฮอร์นฟรอกได้ที่ ตลาดนัดสัตว์เลี้ยง หรือตามออนไลน์
ราคาปกติจะอยู่ที่ราคา 300-600 บาท แต่ถ้าตัวไหนมีสีสันและลวดลายที่แปลกหรือหายาก เช่น สีรุ้ง ก็จะมีราคาสูงตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นเลยก็มี
วิธีการเลือกซื้อให้เลือกตัวที่ตาไม่บอด ไม่พิการ โดยให้หยิบกล่องที่บรรจุน้องขึ้นมาพลิกเอียงดูเบาๆว่าแขนขาน้องครบไหม และให้เลือกตัวที่มีปฏิกิริยาการตอบสนอง ความตื่นตัว และการปีนป่าย เป็นต้น
ข้อควรระวัง
- ให้ระวังเรื่องของการสัมผัสตัวน้องบ่อยๆ เนื่องจากมือของมนุษย์นั้นจะผลิตน้ำมันออกมาจากผิว และน้องมีลักษณะผิวที่ค่อนข้างบอบบาง อาจทำให้น้องเกิดความระคายเคืองผิวหรือเกิดอาการแพ้ได้
- ระวังเรื่องการให้อาหาร ควรให้อาหารน้องวันเว้นวัน หรือ 2 วันครั้ง บางคนให้แค่อาทิตย์ละครั้ง แต่ละครั้งควรให้ในปริมาณที่พอดี ถ้าจะเว้นหลายวัน ก็อาจจะเพิ่มปริมาณอาหารให้ชิ้นใหญ่ขึ้นมาหน่อย เนื่องจากลักษณะนิสัยจอมตะกละของน้อง มีเท่าไหร่ก็จะกินหมด จึงทำให้มีกบฮอร์นฟรอกหลายตัวที่ต้องจบชีวิตเพราะอาการท้องอืด ท้องแตก หรือเกิดโรคอุดตันในท้อง การให้อาหารน้องจึงเป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงควรศึกษาให้ละเอียด และให้ความระมัดระวังอย่างมากๆ
- น้องกบมักมีความถี่ในการลอกคราบไม่เท่ากัน บางตัวลอกทุกวัน บางตัวลอกอาทิตย์หรือเดือนละครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้นสภาพแวดล้อมหรือสถานที่ในการเลี้ยงจึงสำคัญมาก เพราะถ้าสภาพแวดล้อมหรือสถานที่เลี้ยงแห้งเกินไป จะทำให้น้องลอกคราบได้ลำบาก
- ควรเลี้ยงน้องแยกกัน 1 ตัวต่อ 1 สถานที่ เพราะถ้าเกิดการเลี้ยงรวมกันเมื่อไหร่ กบตัวที่ใหญ่จะกินตัวที่เล็กกว่า
ขุยมะพร้าว หญ้ามอส ฟองน้ำ หรือวัสดุรองพื้นในตู้ ไม่ควรปล่อยให้แห้ง ควรหาน้ำมาพรมหรือฉีดให้มีความชุ่มชื้นอยู่ตลอด
ระยะเวลาขับถ่ายของน้อง มักจะมีระยะห่างตั้งแต่ 2 วันไปจนถึงอาทิตย์ละครั้ง แล้วแต่ตัว จึงทำให้ไม่ต้องล้างตู้หรือเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ - ควรพาน้องออกไปแช่น้ำตากแดดบ้าง ครั้งละ 10-15 นาที ส่วนความถี่ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าของ การพาน้องไปแช่น้ำตากแดดจะเป็นการช่วยให้น้องได้ออกกำลังเพื่อให้เกิดความแข็งแรงกับร่างกายและช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารของน้องได้ด้วย
เป็นยังไงบ้างคะ เจ้ากบน้อยของเรา ดูเหมือนจะเลี้ยงยาก แต่พออ่านวิธีการเลี้ยงเข้าจริงๆ กลับเลี้ยงง่ายสุดๆ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเจ้ากบฮอร์นฟรอกถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เนื่องจากไม่ต้องให้อาหารทุกวัน ไม่ต้องล้างตู้บ่อยๆ ใช้สถานที่ไม่มาก และต้นทุนต่ำ แถมยังมีสีสันลวดลายสวยงาม เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้ประดับบ้าน ให้ความร่มเย็นและคลายเครียดได้ ข้อดีเยอะขนาดนี้ต้องไปหามาเลี้ยงกันสักตัวสองตัวแล้วล่ะค่ะแอดว่า หรือจะซื้อมาเพาะพันธุ์ขายเป็นอาชีพเสริมก็น่าสนไม่น้อยเลย
ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com
ติดตามข่าวสาร ได้ที่ : mydeedees.com