อาการภูมิต้านทานตกในแมว น่ากลัวอย่างไร

อาการภูมิต้านทานตกในแมว น่ากลัวหรือไม่แสดงอาการออกมาอย่างไรได้บ้าง

ผมเชื่อเหลือเกินครับว่าโรคในแมวทั้งหมดที่เคยได้คุยกันมา เราทุกคนที่เป็นคนเลี้ยง เป็นเจ้าของแมวต่อให้ผมบอกว่า โรคเหล่านี้นั้นไม่โรคน่ากลัว หรือโรคร้ายแรงอะไรเราก็คงไม่ได้อยากให้โรคนี้เกิดขึ้นมากับแมวของเราแน่นอน แต่สำหรับผมขอบอกเลยครับว่าแมวจะเป็นโรคอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่โรคนี้

โรคที่มีอัตราการเกิดเพียงแค่ 5 – 15% ของจำนวนแมวทั้งหมด เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาแล้วเราจะรักษาไม่หาย เป็นไปตลอดและโรคนี้เองก็ยังเป็นหนึ่งในโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อง่ายขึ้นแทบจะในทุกๆ สถานการณ์เลยก็ว่าได้ สิ่งที่ทำให้ผมนั้นรู้สึกได้ว่าโรคนี้น่ากลัวที่สุดคือขั้นการตอนรักษาที่ยุ่งยาก ต้องเข้าไปปรึกษาแพทย์บ่อย

และที่สำคัญโรคนี้เป็นแล้วไม่หาย ต้องเป็นไปตลอดชีวิต ซึ่งโรคนั้นมีชื่อว่า ภูมิต้านทานตกในแมว หลายคนอาจจะเคยได้ยิน หรือเคยได้เห็น ว่าอาการเหล่านี้มันเป็นยังไง ส่งผลอย่างไรกับแมว

ซึ่งผมจะพาทุกคนไปดูกันให้ละเอียดแบบเจาะลึกกับโรคนี้กันเลยครับว่า หากแมวของเราเกิดติดโรคนี้ขึ้นมา แมวของเราจะมีอาการอย่างไรบ้าง เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัววางแผนรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ใน อาการภูมิต้านทานตกในแมว น่ากลัวหรือไม่แสดงอาการออกมาอย่างไรได้บ้าง

โรคนี้เป็นแล้วไม่หายจริงหรือ?

เชื่อว่าในระหว่างที่ใครหลายคนได้อ่านบทความนี้ น่าจะรู้สึกได้ครับว่ามันจะจริงหรือที่โรคนี้เป็นแล้วไม่สามารถหายขาดได้เลย เพราะโดยปกติแล้วการเป็นโรค เราก็มักจะมียารักษา หรือจัดการกับโรคเหล่านี้ไม่ใช่หรือ แน่นอนครับว่าข้อมูลนั้นถูก และไม่ได้ผิดเลย ซึ่งสิ่งที่คุณเข้าใจกันนั้นเป็นเรื่องจริง แต่รู้หรือไม่ครับว่าไม่ใช่ทุกโรคที่จะรักษากันหายได้ แต่จะมีโรคหนึ่งที่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย เพราะเกราะป้องกันได้ถูกทำลายลงอย่างโรคที่มีชื่อว่า ภูมิต้านทานตกในแมว ที่รักษาไม่หายครับเพราะเชื้อ FIV เข้าไปทำลายระบบการสร้างภูมิคุ้มกันในแมว ซึ่งแน่นอนครับว่าจะส่งผลให้น้องนั้นเกิดความผิดปกในร่างกาย โดยเฉพาะกับภูมิต้านทานที่ใช้เป็นหลักในการจัดการกับเหล่าเชื้อโรค และโรคนี้จะไม่มีทางหายขาด นอกจากนี้ยังส่งผลให้การติดโรคอื่นๆ นั้นง่ายขึ้นได้อีกด้วย วิธีการทำได้แค่บรรเทาอาการ และเพิ่มภูมิต้านทานให้น้องนั่นเอง

ถ้าน้องท้องเสียหนัก มีความเสี่ยงที่จะติด FIV

ถ้าตอนนี้คุณเริ่มสนใจแล้วว่าการที่แมวจะเป็นโรคนี้ได้นั้นมีปัจจัยและความเสี่ยงจากอะไรได้บ้าง ซึ่งแมวของเรานั้นอาจจะมีอาการเหล่านี้อยู่ เพื่อให้การป้องกันนั้นทันท่วงที ผมจะมาบอกทุกคนครับว่าอาการเหล่านั้นมีอะไรบ้าง ช่วงที่ติดเชื้อ FIV จะส่งผลอย่างมากกับระบบการขับถ่าย และการกินอาหารของน้องแมว การที่แมวของเรานั้นมีอาการถ่ายเหลว อึไม่เป็นก้อน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงได้ เพราะโดยปกติในอาหารแทบทุกประเภท จะมีจุลินทรีย์ต่างๆ อยู่ในนั้น รวมไปถึงสิ่งที่น้องแมวกินเข้าไปแล้วเรานั้นมองไม่เห็นซึ่งแน่นอนครับว่าส่งผลต่อการขับถ่ายแน่นอนการที่ภูมิคุ้มกันตก สิ่งที่จะเกิดขึ้นเลยครับคือเรื่องของการที่น้องจะท้องเสีย เพราะจุลินทรีย์ที่อยู่ในกระเพาะอาหารไม่ได้ย่อยนั่นเอง ทำให้เชื้อต่างๆ ที่เรามองไม่เห็น เข้าสู่ร่างกาย และเมื่อไม่มีภูมิคุ้มกันที่มากพอก็จะส่งผลทำให้น้องท้องเสียได้นั่นเอง

น้ำหนักลดลง ตัวซูบผอม

อีกหนึ่งจุดที่เราสามารถดูได้อย่างชัดเจน นั่นคือเรื่องของน้ำหนักตัว ความหนา และความใหญ่ของแมวร่างกาย ให้เราสังเกตได้ง่ายๆ แบบสุดๆ เลยครับ เพียงแค่คุณเอามือไปลูบบริเวณข้างลำตัวของน้องแมว หากเห็นซี่โครงโผล่ออกมานั่นแสดงว่าน้องแมวของเรานั้นเริ่มผอมมากเกินไปแล้วครับ โดยปกติแล้ว เวลาที่เรานั้นมีการตรวจนี้เราสามารถทำได้เองเลยครับ โดยที่ไม่ต้องมีเครื่องมือ แต่ให้เราสังเกตหากซี่โครงชัดมากกว่าปกติ นั่นหมายความว่าน้องผอมลงมาก ให้ไปดูที่ปัจจัยต่างๆ ทั้งการเบื่ออาหาร โรคทางช่องปาก แน่นอนว่าอาจส่งผลไปถึงน้ำหนักตัวที่ซูบผอมลงอีกด้วย และนั่นเองที่อาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าน้องภูมิคุ้มกันตกแล้วเพราะเชื้อ FIV เพื่อให้การป้องกันดี และได้ผลมากที่สุดควรรีบไปปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

อาการเซื่องซึม ไม่ Active

ถ้าจะถามว่าบนโลกนี้มีสัตว์ชนิดไหนที่ร่าเริงได้มากที่สุด คงบอกได้เลยครับว่าไม่มีอะไรจะร่าเริงไปมากกว่าการเลี้ยงแมวอีกแล้วครับ เพราะการเลี้ยงแมวนั้นจะสร้างความบันเทิงใจ ปนปวดหัวมากมายกับการที่น้องชอบวิ่งเร็วๆ ชอบหยอก ชอบกัด หรือแม้แต่การขีดข่วนต่างๆ เองก็เช่นเดียวกัน และผมอยากบอกทุกคนให้ทราบไว้เลยครับว่าถ้าวันไหนแมวคุณไม่วิ่งหรือกระตือรือร้นแบบนี้ สัญญาณนั้นอาจจะกำลังบอกว่า น้องกำลังป่วยและหากเลวร้ายที่สุดอาจติดเชื้อ FIV ไปแล้วก็ได้ครับ หน้าที่ของเราจึงเป็นการสังเกตอาการ และพฤติกรรมต่างๆ ของแมวเพื่อไม่ให้แมวนั้นเกิดอันตรายจากการเป็นโรคนี้นั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ อาการภูมิต้านทานตกในแมว น่ากลัวหรือไม่แสดงอาการออกมาอย่างไรได้บ้าง ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากกันในวันนี้ บอกเลยครับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ ผมเคยได้เจอกับแมวและเจ้าของที่เลี้ยงแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้ครับ บอกเลยว่าเสียเงินไปเยอะมาก ดูแลยากมาก อย่างเดียวเลยที่ทำให้น้องเป็นโรคนี้คือการปล่อยน้องออกไปนอกบ้าน กลับเข้ามาคือเป็นเลยครับ หากใครที่เลี้ยงแมวอยู่ผมอยากบอกไว้เลยนะครับว่าโรคนี้อันตราย และร้ายแรงมากกว่าที่คุณคิด ฉะนั้นจึงควรดูแลแมวให้ดี ให้ห่างจากโรคนี้

ขอบคุณแหล่งที่มา : petsayhai.com

ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : mydeedees.com