สีรถหมอง จากการจอดรถตากฝนเป็นประจำจริงหรือ ?

จอดรถตากฝนเป็นประจำ มีผลเสียอย่างไร ทำสีรถหมองจริงหรือ ?

จอดรถตากฝนบ่อย ๆ เป็นอะไรไหม มีผลกระทบกับรถยนต์อย่างไรบ้าง แล้วการที่ต้องจอดรถตากฝนเป็นประจำ
ทำให้สีรถหมอง และลอกได้จริงหรือ ไปหาคำตอบกัน

ฤดูฝนคงจะเป็นอีกฤดูหนึ่งที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แม้สายฝนที่โปรยปรายจะทำให้รู้สึกเย็นสบาย แต่สำหรับ
ใครที่ต้องขับรถยนต์ไปไหนมาไหนในช่วงนี้ก็อาจจะไม่ค่อยชอบนัก เพราะนอกจากจะต้องใช้ความระมัดระวังมาก
เป็นพิเศษ “ฝน” ยังทำให้รถคันโปรดของคุณสกปรกเปรอะเปื้อนอีกด้วย แม้จะจอดอยู่เฉย ๆ ก็ตาม ส่วนหลายคนน่าจะ
เคยได้ยินว่าการจอดรถตากแดด จะทำให้สีรถหมอง แต่รู้หรือไม่ว่า “จอดรถตากฝน” ก็เป็นอีกสาเหตุทำให้สีรถหมองได้
เช่นกัน แล้วเราจะมีวิธีแก้ไขหรือป้องกันอย่างไรดีนะ

จอดรถตากฝน ทำให้สีรถหมอง ?

จริง ๆ แล้วแสงแดดคือตัวการลำดับแรกที่มีผลทำให้สีรถหมอง แต่ฝนก็เป็นลำดับถัดมาที่ทำให้สีรถหมองได้เหมือนกัน
เพราะฝนที่ตกลงมาในปัจจุบันไม่ได้เป็นหยดน้ำที่มีความสะอาดเหมือนในสมัยก่อน เนื่องจากสภาพอากาศในบ้านเรา
เต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่นละออง สารเคมีต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ เมื่อฝนตกลงมาก็จะชะล้างสิ่งสกปรกเหล่านั้นลงมาด้วย
ไม่ว่าจะขับรถอยู่หรือจอดไว้เฉย ๆ หากปล่อยไว้ให้แห้งโดยไม่ทำความสะอาดในทันที ก็จะเกิดเป็นคราบเคลือบชั้นผิวรถ
อีกทีหนึ่งทำให้สีรถดูหมอง หรือทิ้งไว้นานอาจกลายเป็นคราบที่ติดฝังแน่นได้ จะเห็นได้ชัดเจนในรถสีขาว

จอดรถตากฝน สตาร์ตไม่ติด ?

นอกจากการจอดรถตากฝนจะมีผลเสียกับภายนอกของตัวรถแล้ว ยังสามารถสร้างปัญหาให้กับอุปกรณ์ภายใน
เครื่องยนต์ได้เช่นกัน เพราะการจอดรถตากฝนเป็นระยะเวลานาน ๆ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ชิ้นส่วนภายในห้องเครื่อง
จะเกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้การสตาร์ตเครื่องรถยนต์ในตอนเช้านั้นทำได้ยาก หรืออาจสตาร์ตไม่ติดเลยก็เป็นได้

วิธีดูแลรถจอดตากฝน

1.ล้างและทำความสะอาดในทันที

หากเป็นไปได้ในทุกครั้งที่ต้องจอดรถตากฝน หรือขับรถลุยฝนมา ควรเช็ดล้าง ทำความสะอาดในทันที โดยใช้
น้ำสะอาดฉีดล้างตัวรถให้ทั่วเพื่อชะล้างเศษฝุ่น คราบต่าง ๆ ก่อน ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดในทันที เพราะอาจทำให้สีรถเป็นรอยได้

2. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด

เมื่อรถยนต์ของเราเปียกฝน ไม่ควรนำรถไปโดนแสงแดดในทันทีโดยทียังไม่ได้เช็ดล้างทำความสะอาด เพราะแสงแดง
จะทำให้น้ำระเหยออก และทิ้งร่องรอย คราบ ฝุ่นต่าง ๆ ไว้ที่ตัวรถ ทำให้สีรถดูหมอง ไม่เงางาม

3. เคลือบสีรถอยู่เสมอ

ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจอดรถตากฝนได้ การเคลือบสีรถยนต์หรือการใช้น้ำยาขัดสีรถอาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วย
ปกป้องรถได้ในระดับหนึ่ง เพราะนอกจากสารที่เคลือบชั้นสีตัวรถอยู่นั้นจะช่วยไม่ให้น้ำ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ติดบนพื้นผิว
ของรถได้ง่าย ยังช่วยป้องกันรังสี UV หากจำเป็นต้องจอดรถตากแดด และที่สำคัญการเคลือบสีรถยังช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้อีกด้วย

4.จอดในที่ร่มดีที่สุด

ไม่ว่าจะวิธีไหน ๆ การจอดรถในที่ร่ม หรือที่ที่มีหลังคาก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องรถยนต์จากทั้งน้ำฝนและแสงแดด
หากไม่สามารถหาได้จริง ๆ อาจเลือกใช้ผ้าคลุมรถเป็นการป้องกันในเบื้องต้นก่อน

อย่างไรก็ตาม การจอดรถตากฝน หรือตากแดดอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในปัจจุบัน ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่และลักษณะของที่อยู่อาศัยซึ่งอาจมีที่จอดรถไม่เพียงพอ ดังนั้น เราควรหมั่นล้าง ทำความสะอาด และเคลือบสีเป็นประจำ เพื่อให้รถยนต์สะอาด เงางาม ดูใหม่อยู่เสมอ

All-new Toyota PRIUS นำมาโชว์ตัวที่ประเทศไทยแล้ว

    All-new Toyota PRIUS เจเนอเรชันที่ 5 ถูกนำมาจัดแสดง […]

Read More

All-new Honda CR-V ใหม่ ราคาเริ่ม 1.419 ล้าน

  All-new Honda CR-V 2023 (Gen 6) ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเ […]

Read More

BYD SEAL ออกมาโชว์ตัวจริง ที่งาน มอเตอร์โชว์

 BYD SEAL เก๋งซีดานไฟฟ้าดีไซน์เฉียบถูกนำมาจัดแสดงที่งาน […]

Read More