วิธีปิด Lock Screen หรือ การล็อกหน้าจอบน Windows 10 และ Windows 11
วิธีปิด Lock Screen ในระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Windows 11
ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 และ Windows 10 เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์บูตเสร็จเรียบร้อยแล้ว หน้าจอแรกที่เราจะเจอจะเป็นหน้าที่เป็นการ “ล็อกหน้าจอ (Lock Screen)” ซึ่งหน้าจอนี้ หากเป็นบนแท็บเล็ต มันก็จะเป็นหน้าจอที่แสดงผลเวลาที่เครื่องล็อกหน้าจอเอาไว้อยู่นั่นเอง
Pagefile.sys บน Windows คืออะไร ? เราสามารถลบมันทิ้งได้หรือไม่ ?
วิธีแก้ปัญหา Windows Boot Manager หายไปจาก Windows 10/11
Windows พังมีสาเหตุมาจากอะไร ? พบกับ 6 พฤติกรรมที่อาจทำให้ Windows PC พังได้ง่าย ๆ
หากติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชัน บน Windows ไม่ได้ ทำอย่างไร ? มาดู 9 วิธีแก้ไขกัน
วิธีเปลี่ยนสีเส้นตารางของ Microsoft Excel และ Google Sheets
แต่หากเป็นการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) หรือบน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (Notebook Computer) หน้าจอ “Lock Screen” นี้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากช่วยเรื่องความสวยงาม ซึ่งผู้ใช้งานบางคนรู้สึกรำคาญ ที่ต้องกด “ปุ่มใดๆ” ก่อน 1 ครั้ง เพื่อที่จะเข้าสู่ “หน้าต่าง Login” เพื่อให้เข้าสู่ระบบเป็นลำดับต่อไป
วิธีปิด Lock Screen หรือ การล็อกหน้าจอบน Windows 10 และ Windows 11
ตัวอย่างของหน้า Lock Screen
สำหรับผู้ที่ไม่อยากเสียเวลากดปุ่มเพื่อเข้า “หน้า Login” เราก็มีวิธีปิดการทำงานของ หน้า Lock Screen มาฝาก ทำอย่างไร ? มาอ่านกัน
วิธีปิดหน้า Lock Screen
ก่อนอื่น เราต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่า ใน “เมนู Settings” หรือ “เมนู Control Panel” ของระบบปฏิบัติการ Windows นั้นไม่มีตัวเลือกให้เราปิดไม่ใช้งานหน้า Lock Screen ได้โดยตรง แต่เราสามารถตั้งค่ามันได้ผ่าน “เครื่องมือ Registry Editor” ซึ่งการแก้ไขค่าของไฟล์รีจิสทรีนี้ เราจะต้องอาศัยความระมัดระวังพอสมควร เพราะว่าถ้าหากเราไปเปลี่ยนแปลงค่า หรือลบไฟล์รีจิสทรีแบบมั่ว ๆ อาจทำให้ระบบเกิดความเสียหาย ควรอ่านขั้นตอนการทำอย่างละเอียดก่อนลงมือนะ
ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย
- กด “ปุ่ม Windows + r” เพื่อเปิด “แอป Run” ขึ้นมา
- พิมพ์ลงในช่องค้นหาว่า “regedit” แล้วกด “ปุ่ม Enter”
- หน้าต่าง Registry Editor จะถูกเปิดขึ้นมา ให้เราไปยังตำแหน่ง
“HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows\Personalization” - ในกรณีที่ไม่มี “โฟลเดอร์ Personalization” อยู่ ให้เราสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยตนเองได้เลย ด้วยการคลิกขวาที่โฟลเดอร์ “Windows” แล้วเลือก “เมนู New” ตามด้วย “เมนู Key” ให้ตั้งชื่อ Key ดังกล่าวว่า “Personalization”
วิธีปิด Lock Screen หรือ การล็อกหน้าจอบน Windows 10 และ Windows 11
5.คลิกขวาที่ “โฟลเดอร์ Personalization” แล้วเลือก “เมนู NEW” ตามด้วย “เมนู DWORD (32-bit)” ตั้งชื่อไฟล์ว่า “NoLockScreen”
6.ดับเบิลคลิกที่ “ไฟล์ NoLockScreen” แล้วเปลี่ยนค่าใน “ช่อง Value Data” จาก “0” ให้เป็น “1” แล้วคลิก “ปุ่ม OK” เพื่อบันทึกการตั้งค่า
วิธีปิด Lock Screen หรือ การล็อกหน้าจอบน Windows 10 และ Windows 11
7.ปิด “หน้าต่าง Registry Editor” ไปได้เลย จากนั้นก็รีสตาร์ตคอมพิวเตอร์ เท่านี้ก็เรียบร้อย “หน้าต่าง Lock Screen” ก็จะหายไปแล้ว
หากต้องการนำ Lock Screen กลับมา เราก็แค่เข้ามาลบ “ไฟล์ NoLockScreen” ทิ้ง แล้วรีสตาร์ตเครื่อง 1 รอบ มันก็จะกลับมาเหมือนเดิมแล้วครับ
ใครที่รำคาญหน้าต่าง Lock Screen ก็ลองทำตามกันดูนะครับ
ขอบคุณแหล่งที่มา : news.thaiware.com/www.howtogeek.com
ติดตามข่าวสารได้ที่ mydeedees.com