“ฟิลเลอร์” VS “ไขมัน” ฉีดอะไรดีกว่ากัน?

“ฟิลเลอร์” VS “ไขมัน” ฉีดอะไรดีกว่ากัน?

“ฟิลเลอร์” กับ “ไขมัน” แตกต่างกันอย่างไร? และเราควรฉีดอะไรดีกว่ากัน? คำถามที่คาใจ Lady MIRROR หลายๆ คนที่กำลังจะตัดสินใจเลือกวิธีการ “ปรับรูปหน้า” ของตัวเอง โดยจะเลือกวิธีการใช้สารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ หรือจะใช้เทคนิคการปลูกถ่ายไขมันเข้าสู่ใบหน้านั้น ซึ่งการทำทั้ง 2 แบบนี้ย่อมมีความแตกต่างกันแน่นอน ถึงแม้จะเป็นการช่วยให้สาวๆ มีรูปหน้าที่สวยงามเหมือนกันก็ตามที มาค่ะ…วันนี้ MIRROR มีข้อมูลดีๆ จาก นพ.วชิระ คุณาธาทร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า ผู้คร่ำหวอดในวงการความงามมากกว่า 15 ปี จะมาไขข้อกระจ่างให้กับสาวๆ เราไปฟังเรื่องราวความแตกต่างของ “ฟิลเลอร์” และ “ไขมัน” พร้อมๆ กัน

“ฟิลเลอร์” และ “ไขมัน” อะไรดีกว่ากัน?

นวัตกรรมรูปหน้าด้วย “ฟิลเลอร์” และ “ไขมัน”
กังวลใจมั้ยคะสาวๆ กับปัญหา “ริ้วรอยและร่องลึก” ที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้า ทั้งร่องใต้ตา ร่องแก้ม และหน้าผาก ตลอดจนปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด ที่ทำให้สาวๆ ดูแก่เร็วขึ้น ตรงนี้ล้วนเป็นปัญหาหนักใจของคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน เพราะทุกคนล้วนปรารถนาที่จะมีใบหน้าและผิวพรรณที่สวย ดูดี และอ่อนเยาว์ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ในปัจจุบันนวัตกรรมการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มจึงได้รับความนิยมไม่น้อยกว่านวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอย เนื่องจากเป็นวิธีการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยร่องลึก และปรับรูปหน้าที่ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนกับการศัลยกรรม อีกทั้งยังเห็นผลรวดเร็ว และแทบไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สาวๆ ที่ต้องการความสวยเร่งด่วน และดูดีแบบรวดเร็ว

"ฟิลเลอร์" VS "ไขมัน" ฉีดอะไรดีกว่ากัน?
“ฟิลเลอร์” กับ “ไขมัน” แตกต่างกันอย่างไร?

การ “ฉีดฟิลเลอร์” และ “ฉีดไขมัน” นั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าทั้ง 2 วิธีนี้จะเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ขาดของใบหน้า แต่วิธีการและผลลัพธ์นั้นมีความแตกต่างกัน เนื่องจากการฉีด “ไขมัน” จริงๆ แล้วเป็นการปลูกเซลล์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพราะเนื่องจากเซลล์ไขมันเป็นเซลล์มีชีวิต ดังนั้นการปลูกถ่ายไขมันจึงไม่ใช่แค่การฉีดไขมันลงไปบนผิวหน้าแล้วจบ แต่เราจะต้องรอให้เกิดการปลูกถ่ายเซลล์ที่สมบูรณ์ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ส่วนการฉีด “ฟิลเลอร์” คือการเติมเต็มโดยใช้สารไฮยาลูโรนิค เอซิด (Hyaluronic Acid, HA) ที่ผลิตขึ้นมาให้มีความใกล้เคียงกับไฮยาลูโรนิค เอซิดที่ร่างกายสร้างเอง และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทั้งนี้หากต้องระบุว่า การรักษาแบบใดดีกว่ากันนั้น คงฟันธงได้ยาก เพราะวิธีการรักษาแต่ละรูปแบบขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนด้วย และที่สำคัญคือความคาดหวังในผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือสาวๆ ต้องศึกษาให้ดี ว่าปัญหาหรือความต้องการของเรานั้นคืออะไร เพื่อตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสม เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามที่ต้องการ

รูปหน้าสวย ดูอ่อนเยาว์ เหมาะกับ “ฉีดไขมัน”
หลายๆ คนสงสัยว่าวิธีไหนจะดีกว่ากันนั้น คุณหมอได้อธิบายว่าการ “ฉีดไขมัน” เหมาะสำหรับการทำ Rejuvenation หรือการย้อนวัย เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น ไขมันบางส่วนบนใบหน้าอาจจะสลายหายไปตามกาลเวลา การฉีดไขมันจะช่วยเติมเต็มใบหน้าของเราให้กลับมาเป็นเด็ก เต่งตึง มีน้ำมีนวลอีกครั้ง เนื่องจากการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันนั้นจะมีกระบวนการของร่างกายในการสร้างเส้นเลือดใหม่ เพื่อเข้ามาเลี้ยงบริเวณเซลล์ไขมัน และในไขมันจะมีปัจจัยที่ใช้ในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ด้วย ดังนั้นหากสาวๆ ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ หรือต้องการเติมเต็มใบหน้าในบริเวณกว้าง การฉีดไขมันน่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด


ยกกระชับ คงรูปหน้า ต้อง “ฉีดฟิลเลอร์”
ทั้งนี้เนื่องจาก “ไขมัน” มีคุณสมบัติในการเติมเต็มเพียงอย่างเดียว เพราะโมเลกุลไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการปรับรูปหน้า หรือการทำ Facial Design รวมทั้งไม่มีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการยกกระชับ หรือช่วยคงรูปใบหน้า ดังนั้นหากเป็นการปรับรูปหน้า คุณหมอแนะนำว่าการ “ฉีดฟิลเลอร์” จะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากสารไฮยาลูโรนิค เอซิด (Hyaluronic Acid, HA) ที่นิยมนำมาใช้สำหรับฉีดฟิลเลอร์นั้น ถูกผลิตมาด้วยคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่น ความคงตัว และการขึ้นรูป และมีขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกัน จึงทำให้ฟิลเลอร์บางตัวอาจเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาเรื่องการปรับรูปหน้า ขณะที่บางตัวเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาเรื่องผิวพรรณ เนื่องจากคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ยังต้องปัญหาและสภาพผิวของสาวๆ แต่ละคนด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติอันนี้ต้องเป็น “ฟิลเลอร์”

 

“ฟิลเลอร์” กับ “ไขมัน” อะไรปลอดภัยกว่ากัน?

คุณหมอเล่าว่า ยังมีความเข้าใจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการฉีด “ไขมัน” ปลอดภัยกว่าการฉีด “ฟิลเลอร์” ซึ่งจริงๆ แล้วนั้น ไขมันเป็นของตัวเราเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม น่าจะอันตรายจะน้อยกว่าสิ่งแปลกปลอมที่ผลิตขึ้นมาและเอาเข้าไป แต่ในความเป็นจริงนั้น การฉีดไขมันนับเป็นอันตรายแอบแฝงมากกว่า หากอ้างอิงจากงานวิจัยทั่วโลก จะพบว่าการฉีดไขมันมีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนที่เยอะกว่า และการแก้ไขผลแทรกซ้อนที่ยากกว่าด้วย เนื่องจากต้องฉีดเข้าไปในปริมาณที่เยอะ และขนาดโมเลกุลที่ใหญ่ ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย และปัจจุบันเรายังไม่มียาสลายไขมันที่รักษาได้ทันที และหากแพทย์ที่ฉีดไม่มีความชำนาญมากพอ ก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

ถ้าเจอ “ฟิลเลอร์” ปลอม หน้าก็พัง
ในขณะที่สารไฮยาลูโรนิค เอซิด ที่อยู่ใน “ฟิลเลอร์” ได้มีการพัฒนาจนสามารถผลิตได้ใกล้เคียงกันกับสารไฮยาลูโรนิค เอซิดที่ร่างกายมนุษย์สร้างได้เอง ทั้งยังสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ดังนั้นโอกาสที่จะแพ้สาร HA Dermal Fillers เกิดขึ้นได้น้อยมากๆ แต่ในทางตรงกันข้าม หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมนั้น แน่นอนว่าต้องอันตรายอยู่แล้ว ดังนั้นคนไข้ต้องมั่นใจว่าได้เข้ารับบริการในสถานที่บริการที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ แพทย์ผู้ความเชี่ยวชาญก็สำคัญ ไม่แพ้กับการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ ถูกต้องตามกฎหมาย สังเกตจากการใช้ที่มีการใช้มาอย่างยาวนาน และผ่านการรับรองจาก อย.ไทย

“ฟิลเลอร์” กับ “ไขมัน” อันไหนเจ็บกว่ากัน?
การ “ฉีดฟิลเลอร์” มีข้อดีคือ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังจากคนไข้ฉีดแล้ว สาวๆ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในขณะที่การ “ฉีดไขมัน” ต้องมีการเจ็บตัว และใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า เพราะต้องมีกระบวนการดูดไขมันจากอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกาย

เพื่อไปผ่านกระบวนการก่อนฉีดเข้าที่ผิวหน้า หลังจากนั้นต้องรอเวลาในการปลูกถ่ายของเซลล์ไขมันนั้นว่าจะติดหรือไม่ ดังนั้นในการ “ฉีดไขมัน” จะมีการฉีดในปริมาณที่เยอะ เผื่อไว้สำหรับไขมันบางส่วนที่อาจจะไม่ติดและสลายไป ดังนั้นส่วนใหญ่การฉีดไขมันเราจะเห็นทุกคนออกมาหน้าอูม บวม และต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นจนกว่าจะเข้าที่

สุดท้ายก่อนตัดสินใจเลือก “ฟิลเลอร์” และ “ไขมัน”
สุดท้ายเราได้คำแนะนำจากหมอว่า การฉีดทั้ง “ฟิลเลอร์” และ “ไขมัน” ทั้งสองแบบนั้นมีข้อดี ข้อเสียที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาของสาวๆ แต่ละคนว่าต้องการแก้ไขอะไร ปรารถนาผลลัพธ์อย่างไร และมีความสะดวกแบบไหน หากต้องการแก้ปัญหาผิวให้เต่งตึง อ่อนเยาว์เพียงอย่างเดียว การฉีดไขมันก็อาจจะตอบโจทย์ แต่หากคนไข้ต้องการปรับรูปหน้าให้กระชับ เสริมโครงสร้างบนใบหน้าให้เด่นชัด มีเอกลักษณ์ และเต็มเติมริ้วรอยบนใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์ก็จะเหมาะสมกว่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการเสริมความงามใดๆ ก็ตาม ทุกคนต้องศึกษาให้ถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก

ทีนี้สาวๆ คงหาคำตอบได้แล้วว่า “ฟิลเลอร์” กับ “ไขมัน” อะไรดีกว่ากัน? ที่สำคัญต้องตอบโจทย์ตัวเราเองมากที่สุด เพราะบางอย่างอาจไม่คุ้ม ถ้าเราไม่มีข้อมูลและความรู้ที่เพียงพอในการตัดสินใจเลือกเสริมความงามกับนวัตกรรมความงามที่มีอยู่มากมาย ขณะที่สถานบริการก็ผุดขึ้นดั่งดอกเห็ด โปรโมชั่นก็ล่อตาล่อใจ MIRROR ขอแนะนำให้คุณสาวๆ ศึกษาทุกอย่างให้ดี ก่อนจะตัดสินใจและลงทุนเรื่องความสวยความงาม เพราะบางทีอาจได้ไม่คุ้มที่เสียไป

ขอบคุณแหล่งที่มา  : thairath.co.th

ติดตามข่าวสารได้ที่ : mydeedees.com

ผักผลไม้ Healthy ที่ต้องบอกต่อ! แค่เลือกกินก็ถือเป็นการดูแลสุขภาพได้ง่ายๆ

ผักผลไม้ Healthy ที่ต้องบอกต่อ!

ผักผลไม้ Healthy ที่ต้องบอกต่อ! แค่เลือกกินก็ถือเป็นการ […]

Read More
ไม่มีเหงื่อออกรักแร้อีกต่อไป ลองใช้เคล็ดลับ 5 ข้อต่อไปนี้

ไม่มีเหงื่อออกรักแร้อีกต่อไป ลองใช้เคล็ดลับ 5 ข้อ

ไม่มีเหงื่อออกรักแร้อีกต่อไป ลองใช้เคล็ดลับ 5 ข้อต่อไปน […]

Read More
7 เคล็ดลับหวีผมอย่างไรให้ผมยาวทันใจ ส่งเสริมการเกิดผมใหม่

7 เคล็ดลับหวีผมอย่างไรให้ผมยาวทันใจ

7 เคล็ดลับหวีผมอย่างไรให้ผมยาวทันใจ ส่งเสริมการเกิดผมให […]

Read More